วันนี้เป็นวันหยุด ตั้งใจจะตรวจงานนักเรียนและทำคะแนนให้เสร็จ รู้สึกช่วงนี้ยังไม่ได้พักจากงาน มีงานต้องรีบสะสางอย่างต่อเนื่อง บางครั้งการทำงานที่สร้างสรรค์ ก็ต้องสร้างแรงบันดาลใจและอารมณ์ในการทำงานด้วย เนื่องจากหากไม่มีอารมณ์สร้างสรรค์หรือไม่มีแรงบันดาลใจ มันก็นึกอะไรไม่ออกและไม่มีแรงจะเนรมิตงานชิ้นนั้น ปกติก็เป็นคนอารมณ์เปลี่ยนแปรรวดเร็ว ทำงานสักชิ้นก็จะหยุดไปทำโน้นมากนี่บ้าง แต่ถ้าเป็นงานที่ชอบแล้วจะทำไม่หยุดและไม่เหนื่อยเลย โดยเฉพาะงานที่ท้าทายความสามารถและสิ่งใหม่ๆ แต่ก็มีบ้างในการทำงาน ที่พบเจอแต่งานที่จำเจ ซ้ำๆ ทำแล้วทำอีก ซึ่งเป็นงานที่ไม่เกิดประโยชน์กับใคร แค่ทำให้เสร็จๆ หรือทำตามนโยบาย ที่ขาดการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดี ขณะที่กำลังจะสร้างแรงจุงใจในการสะสางาน ซึ่งปกติ ก็จะนั่งให้เกิดความอยากจะทำงาน หรือฟังเพลงผ่อนคลาย หรือไม่ก็นั่งท่องเน็ต บังเอิญอ่านเจอ พระราชดำรัส พระราชทานแก่ครูอาวุโส ๒๘ ตุลาคม ๒๕๒๓ เกี่ยวกับ ครู มีใจความว่า

“..ครูที่แท้จริงนั้นต้องเป็นผู้ทำแต่ความดี คือต้องหมั่นขยันและ อุตสาหะพากเพียร ต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสละ ต้องหนักแน่นอดทน และอดกลั้น สำรวมระวังความประพฤติปฏิบัติของตน ให้อยู่ในระเบียบ แบบแผนที่ดีงาม รวมทั้งต้องซื่อสัตย์ รักษาความจริงใจวางใจเป็นกลาง ไม่ปล่อยไปตามอำนาจอคติ…”

เลยทำให้มีกำลังใจในการสะสางงานต่อ เหมือนมีกำลังใจจากท่านให้เราทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ถึงแม้บางเวลา เบื่อหน่าย กับระบบการทำงานและไร้ประสิทธิภาพระบบ หรือผู้คนที่มุ่งทำงานแข่งขันกันตลอดเวลา และจิตใจที่ขาดการพัฒนาอยุู่ในสังคมปัจจุบันนี้ ความรู้สึกเหมือนกับว่าทุกคนเอาแต่ได้ให้กับตนเอง เอาเปรียบ หรือทำลายธรรมชาติ ใช้ทรัพยากรทุกอย่างไม่คุ้มค่า และสิ้นเปลือง มุ่งแต่ปริมาณงาน แต่ไร้คุณภาพ ตื่นตูม ไปเสียทุกๆ เรื่อง ทั้งๆ เรื่องต่างๆ ก็เกิดจากฝีมือมนุษย์นั่นแหละ (แอ ชักบ่นไปกันใหญ่ นอกเรื่องเปล่านี่) กลับมาเรื่องครูต่อครับ เมื่ออ่านพระบรมราโชวาท แล้วก็รู้สึกอยากทำงาน เลยนั่งออกแบบรูปภาพเก็บไว้ เผื่อเวลาจะใช้ทำพูดจะได้ไม่ต้องหาอีก และก็ใส่ไว้ในบทความนี้ครับ

แสดงความคิดผ่าน Facebook