ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนเพิ่ม เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับแม่พิมพ์ของชาติ โทษเลื่อนวิทยฐานะอืดเพราะต้นสังกัดไม่ตั้งงบฯ…

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 55 นางรัตนา ศรีเหรัญ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลังการร่างกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับเงินเดือนสูงกว่าหรือ ต่ำกว่าขั้นต่ำ หรือสูงกว่าขั้นสูงของอันดับตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ขณะนี้สำนักเลขาธิการ ครม. ได้ส่งเรื่องกลับมายังสำนักงาน ก.ค.ศ.แล้ว ตนจะนำเสนอนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศธ. เพื่อลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อมีผลบังคับใช้ต่อไป ทั้ง นี้ สาระสำคัญของการร่างกฎ ก.ค.ศ.ดังกล่าวจะทำให้ข้าราชการครูฯ ที่ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับเงินเดือนเดิม สามารถไปรับเงินเดือนในอันดับถัดไปได้อีก 1 อันดับ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่สามารถเลื่อนไหลได้ ดังนี้ผู้ที่ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับ คศ.2 ไปรับเงินเดือนในอันดับ คศ.3 ในอัตราเดิม โดยให้มีผลบังคับใช้ถัดจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ส่วนผู้ที่ได้รับเงินเดือนขั้นสูงของอันดับ คศ.3 ไปรับเงินเดือนได้ในอันดับ คศ.4 ในอัตราเดิม และผู้ที่ได้รับเงินเดือนถึงขั้นสูงของอันดับ คศ.4 ไปรับเงินเดือนในอันดับ คศ.5 ในอัตราเดิม ถ้าไม่มีขั้นหรืออัตราเงินเดือนที่ได้รับอยู่เดิม ให้ได้รับขั้นหรืออัตราเงินเดือนใกล้เคียงที่สูงกว่า โดยให้มีผลย้อนหลัง แต่ทั้งนี้ต้องไม่ก่อนวันที่ 1 เม.ย.2554 ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ครูรอคอยมานาน และทันทีที่มีการประกาศราชกิจจานุเบกษาก็จะเป็นของขวัญปีใหม่

นาง รัตนา กล่าวกรณีที่ครูร้องเรียนว่า ได้ส่งผลงานทางวิชาการเพื่อขอมีและเลื่อนวิทยฐานะ แต่ไม่มีผู้อ่านผลงานว่า หากเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ และเชี่ยวชาญพิเศษ ก.ค.ศ.เป็นผู้พิจารณา ซึ่งไม่มีปัญหาคั่งค้าง แต่หากเป็นวิทยฐานะชำนาญการและชำนาญการพิเศษ เป็นหน้าที่ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอ่าน ผลงาน โดยผู้ขอ 1 คน ต้องใช้กรรมการ 3 คน ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้อ่านรายละ 1,000 บาท ดังนั้น 1 คนต้องมีค่าใช้จ่าย 3,000 บาท โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ต้นสังกัดของครูจะต้องตั้งงบประมาณให้แก่เขตพื้นที่ฯ ดังนั้นการไม่มีผู้อ่านผลงานอาจเป็นเพราะต้นสังกัดไม่ได้ตั้งงบฯ.

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

แสดงความคิดผ่าน Facebook