map

ครั้งแรกในชีวิตของการขับรถคนเดียวไปยังต่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ด้วยเพราะเป็นคนขี้กลัว ไม่กล้าที่จะไปไหนมาไหน และสื่อสารไม่ค่อยเก่ง เลยตัดสินใจทดลองขับรถกลับบ้านผ่านทางประเทศมาเลยเซียคนเดียวดู เพื่อจะได้หายจากความกลัวและไม่กล้า ต่อไปเผื่อเหตุการณ์อะไรจะได้มีสติและไม่กลัวจนเกินไป

เริ่มต้นจากการต่อประกันรถเพื่อนำเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งก็เป็นครั้งแรก จำได้ว่าเจ้าหน้าที่ที่รับทำประกันบอกว่า เวลามาต่อประกันก็แค่มาเอกเอกสารมายื่นที่ช่องสำนักงาน ปรากฎว่า เจ้าหน้าที่ที่ด่านมาเลเซียสื่อสารมารู้ฟังบ้างไม่รู้ฟังบ้าง แต่ก็พอเดาๆ ได้ว่า ให้ไปถ่ายสำเนา เอกสารต่อไปนี้มาก่อน รวมแล้วก็ 5 ฉบับได้แก่

  1. สำเนาใบขับขี่
  2. สำเนาประกัน
  3. สำเนาใบแปลสมุดรถ
  4. สำเนาแบบฟอร์มรายละเอียดรถ จำนวน 2 รายการ

สรุปก็เดินกลับมาทำที่ด่านไทย ถ่ายเอกสารให้ทางร้านเขียนแบบฟอร์มให้ ค่าใช้จ่าย 50 บาท ซึ่งทางร้านแนะนำว่า เขียนเองก็ได้ ต่อไปต้องถ่ายสำเนาทุกคร้้งเมื่อถึงเวลาต่อประกันเข้ามาเลเซีย

พอไปยื่นก็ยังไม่เรียบร้อยอีก เพราะต้องเอารถมาจอดที่ด่านมาเลเซีย ตกลงก็ต้องข้ามไปเอารถมาอีก 555  หลายรอบเลย สรุปใช้เวลาต่อประกันเกือบ 1 ชั่วโมง เพราะเดินไปเดินมา ทีแลกว่าจะทำเอกสารอะไรให้เรียบร้อยแล้วค่อยเอารถเข้าทีเดียว

หลังจากนั้นก็จ็อบหนังสือเดินทาง ครั้งนี้ผมไม่ได้ใช้ Passport แต่ใช้ ฺBorder Pass แบบใหม่ สีเขียว ซึ่งเมื่อก่อนเป็นใบขนาด A4 แผ่นเดียว ตอนนี้เค้าทำแบบใหม่เป็นสมุด ดูดีขึ้น ค่าทำ 200 บาท (ที่อำเภอใกล้บ้าน ใช้เวลา ไม่เกิน 5 นาที)

borderpass

เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ขับรถผ่านด่านพร้อมยื่น Border Pass ขณะขับรถได้เลย ปกติจะสแกนลายนิ้วมือ แต่ครั้งนี้ไม่ต้อง น่าจะเป็นเพราะใช้เล่มเขียนนี้หรือเปล่า เมื่อก่อนใช้ Passport ต้องสแกนนิ้วชี้ 2 นิ้ว อิอิ

เนื่องจากตั้งใจจะใส่น้ำมันที่มาเลเซียด้วย เพราะราคาถูกกว่าไปมาก และน้ำมันดูแล้วไม่น่าจะพอ กลัวหลงทางด้วย เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ไม่เคยไปมาก่อนและคงอยากที่จะถามใครระหว่างทาง เพราะพูดภาษาเมเลย์ไม่เป็น 555

เติมน้ำมันที่ปั้มใกล้ด่ามมาเลเซีย แค่ 20 ริกกิตประมาณเงินไทย 169 บาท (ตอนนี้ค่าเงินมาเลย์เซียลด ประมาณ 7-8 เนื่องจาก อมริกาได้ประธานาธิบดีคนใหม่ ได้น้ำมันเกือบครึ่งถัง ถ้าเมืองไทยก็ต้องใส่ 500 บาท (เรื่องเล่าเยอะถ้าพูดน่าจะสนุกกว่าเขียนครับ แต่อยากเขียนเล่าประสบการณ์ เพราะเป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง)

การเดินทางครั้งนี้ไม่มี GPS เพียงแต่พิมพ์แผนที่จาก Google Map มาคร่าวๆ และพิมพ์ถนน เพื่อจะได้ไม่หลงจนเกินไป อาศัยความกล้าที่จะทำในความกลัวที่มีอยู่ ก็เลยตัดสินใจ (ทำในขณะที่ไม่พร้อมและกลัว เป็นกฎข้อนึงของการประสบความสำเร็จ (ว่าไป))

หากดูจากเส้นทางแล้วยากมาก เพราะมีหลายเลี้ยว หลายแยก และหลายวงเวียนมาก หลงไป 2 ครั้ง เลี้ยวผิดเข้าไปในป่าเทือกเขาทางตัน กับเลี้ยวผิดวงเวียน โหแต่ละทางช่างเงียบสงบโล่ง (อีกอย่างเหมือนได้ฝึกการมีสติไปด้วย)

ไปโดยไม่ได้เตรียมพร้อม ทั้งหิวและไม่ได้เข้าห้องน้ำ เพราะไม่กล้าถามและไม่กล้าลงไปซื้อของ (พูดไม่เป็น) เส้นทางส่วนใหญ่ก็ขับสบาย ไม่มีรถมาก สงบ ธรรมชาติสวย ระหว่างทางก็แวะจอดถ่ายรูปทุุ่งนา กับ ภูเขา ดูด้วยสายตาสวยมากๆ แต่พอถ่ายกับกล้องแล้วดูธรรมดา

natureinmalaysia

ระหว่างทางก็สงสัยเห็นเค้ามีเต็นขายช่อดอกไม้เต็มไปหมด ปรากฎว่า ที่มหาวิทยาลัย University Utaya เค้ามีการรับปริญญาครับ เลยจอดรถแวะถ่ายป้ายมหาวิทยาลัย ทีแรกว่าจะเข้าไปเยี่ยมชมและทำเนียนว่ามาแสดงความยินดี แต่ต้องรีบเดินทางเพราะไม่แน่ใจว่ามาถูกทางเปล่า?

utara

การเขียนเรื่องราวใน WP นี้ไม่สะดวกเหมือนเขียนใน Facebook เพราะแทรกรูปไม่สะดวก แต่ต้องการให้เห็นรูปเลยต้องอัพโหลดรูปที่ละรูป (นั่นสิว่าทำไมใครๆก็ลงรูปกันใน Face และใช้กันมากมาย อิอิ)

ระหว่างทางผ่านวัดไทย จำนวน 2 วัด และก็หมายไว้แล้วว่าถ้าไปไหนไม่ถูกคงต้องเข้าไปสอบถามและพักในวัดแห่งนี้

วัดแรกช่วงต้นทาง (วัดกูบังตีฆา)

thaitemple1

วัดที่สองช่วงปลายทาง (วัดไทยประดิษฐาราม)

thaitemple2

เส้นทางที่ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจและกลัวมาก เนื่องจากเป็นทางเปลี่ยว ไปตามภูเขาและผ่านสวนทาง สภาพเส้นทางชำรุดเหมือนไม่มีรถวิ่ง และก็ไม่มีบ้านคนเลย ซึ่งคิดว่ามาถูกทางหรือเปล่า ทำไมทางจึงเหมือนกับยิ่งขับยิ่งไกล แต่ก็แข็งใจไปต่อ ตอนนี้อาการปากซีดแล้ว (กลัว) เพราะน้ำมันรถก็จะหมด แต่ก็ลองลุ้นเสียงดูว่าจะไปออกถนนใหญ่และน้ำมันจะพอหรือเปล่า (นี่แหละชีวิตสอบเสี่ยงและลุ้น คราวหลังจะได้ หลาบ…)

สุดท้ายก็มาถึงทางออก เป็นทางแยกถนนเริ่มสบายขึ้น เลยโล่งใจ กลัวแต่น้ำมันอย่างเดียว แต่ก็ลุ้นต่อไปอีก จนถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองมาเลเซีย (โล่งไป)

ิborderthai

ได้แวะเข้าห้องน้ำและทานอาหารที่ด่านประกอบ รู้สึกเหมือนหลุดออกมาจากที่ในฝัน(ร้าย) เลย เมนูตอนนี้ขอแค่ ข้าวกระเพราไก่ไข่ดาว

rice

ราคา 50 บาทครับ ที่ศูนย์อาหารด่านประกอบ เป็นด่านที่ใหญ่มาก ตอนนี้ผู้คนและรถเข้าออกยังไม่เยอะ ต่อไปคงมีการใช้บริการมากขึ้น

รวมเวลาออกเดินทางจาก ด่านวังประจัน จ.สตูล ถึง ด่านประกอบ อ.นาทวี จ.สงขลา 114 กิโลเมตร ออกเดินทางเวลาประมาณ 10.00 น. ถึง 13.00 น. รวมกับที่หลงทางนิดหน่อย แต่ขับไม่เร็ว มาเรื่อยๆ 80 กม/ชม

ขอขอบคุณ Google Map ที่ให้ข้อมูลก่อนการเดินทางได้อย่างดีครับ


วีระศักดิ์ พัทบุรี
13/11/2559

แสดงความคิดผ่าน Facebook