โครงการรินน้ำใจสู่น้องชาวใต้ ครั้งที่ 14 ประจำปี 2559 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14-19 พฤศจิกายน 2559 สำหรับในปีนี้จากที่ได้มีโอกาสในการควบคุมนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เข้าร่วมโครงการ ยอมรับว่าเป็นโครงการที่ดีมาก ที่ให้โอกาสทางการศึกษา สำหรับนักเรียนต่างจังหวัด ได้เรียนรู้จากครูวิทยากรส่วนกลาง ที่มีความรู้ ความสามารถ และเทคนิคการสอนใหม่ๆ ทำให้เกิดการเรียนได้อย่างเต็มที่

จากความเป็นมาของโครงการนี้ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพผู้เรียนในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
 ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และสนองความต้องการ ของนักเรียนและผู้ปกครอง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงจัดโครงการ “รินน้ำใจสู่น้องชาวใต้” เพื่อให้ความรู้ทางวิชาการแก่นักเรียนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลา 5 อำเภอ (อำเภอนาทวี อำเภอสะเดา อำเภอจะนะ อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย)

ข้อสังเกตในปีนี้ คือ ติดวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุด และนักเรียนส่วนหนึ่งมีกิจกรรมของทางโรงเรียนและหน่วยงานอื่น นอกจากนี้การเดินทางของนักเรียนที่ไม่สะดวกสำหรับคนที่ใช้รถประจำในการมาโรงเรียน ทำให้วันสุดท้ายของโครงการมีนักเรียนเข้าร่วมน้อยมาก ซึ่งในช่วงเวลา 09.00 น. มีจำนวนนักเรียนประมาณ 10 คน รู้สึกเกรงใจคณะวิทยากรอย่างยิ่งที่อุตส่าห์เดินทางมาจากส่วนกลาง แต่นักเรียนมีจำนวนน้อย และในช่วงสายๆ นักเรียนก็เริ่มทยอยมา แต่ก็ยังมีจำนวนไม่มากโดยรวม 45 คน ซึ่งต่างจากวันแรกที่มีนักเรียนจำนวนมาก

ยอมรับว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก บทความนี้เขียนไม่ได้ตำหนิใคร เพียงแต่ให้ข้อคิดและแสดงความคิดเห็นเพื่อการพัฒนาการศึกษา เยาวชนในการพัฒนาชาติไทย เนื่องจากเห็นนักเรียนบางส่วนขาดความรับผิดชอบในหน้าที่ ไม่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจในการมาเข้าร่วมโครงการ อีกทั้งพฤติกรรมการรับประทานของขบเคี้ยวและเครื่องดื่มก็ไม่เป็นเวลา ดูแล้วไม่เหมาะสม นำอาหารไปทานในห้อง  และไม่ให้เกียรติครูผู้เป็นวิทยากร (ก็ไม่ได้ตำหนิใคร เล่าสู่กันฟังว่าแล้วจะทำอย่างไรกันดี หรือมีอะไรที่ช่วยกันปรับเปลี่ยนได้) 

อย่างน้อยก็ได้ตักเตือนแล้วแต่ก็ยังไม่ทั่วถึง เพราะมีนักเรียนหลากหลายโรงเรียน ยังไงก็ช่วยๆ กัน เพื่อการพัฒนาการศึกษาไทย ด้วยเพราะงบประมาณของโครงการประมาณ 1 ล้านกว่า ก็อยากจะเห็นการใช้เงินที่เกิดประโยชน์สูงสุด

คิดว่าควรมีการทำความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียนและครูทุกท่านถึงจุดประสงค์และแนวทางปฏิบัติ และการเตรียมความพร้อมสำหรับการติวในโครงการนี้

นอกจากนี้จากการที่ได้พบเห็นสถานที่จัดโครงการในสถานศึกษา โดยเฉพาะนักเรียนต่างโรงเรียนที่เข้ามา พบว่า แต่งกายไม่เรียบร้อย โดยเดินปล่อยเสื้อไว้นอกจากกางเกงเดินไปมาอยู่ทั่วโรงเรียน ซึ่งนักเรียนในโรงเรียนของตนเองทุกคนแต่งกายเรียบร้อย แต่มีนักเรียนโรงเรียนอื่นมาเดินเป็นแบบอย่างที่ไม่เหมาะสม (ที่เห็นเป็นสายวิทย์)

เห็นยังว่า “การศึกษาบางครั้งก็พัฒนาสมอง แต่ไม่สามารถพัฒนาพฤติกรรมที่พึงประสงค์ได้ “ สังคมไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนเก่งมานานนับศตวรรษแล้ว ทุกวันนี้ก็จะเอาคนเก่งมาสอนคนให้เก่งอีก……(นอกเรื่องแล้ว)

รายละเอียดโครงการริน้ำใจสู่น้องชาวใต้


วีระศักดิ์ พัทบุรี
19/11/2559

แสดงความคิดผ่าน Facebook