ชีวิตของคนเรา หากเปรียบเสมือนแก้วน้ำใส ที่ว่างเปล่า วันเวลาผ่านไป ทุกคนต่างก็แสวงหาตัวตนของตนเอง เพื่อให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ที่สุด นั่นคือ การศึกษา เพื่อนำไปประกอบอาชีพ ให้มีรายได้ ซื้อสิ่งของในการดำเนินชีวิต สิ่งต่างๆ เหล่านั้นเป็นการเติมเต็มให้กับชีวิต เปรียบเสมือน น้ำบริสุทธ์ ที่เราเติมลงในแก้ว ซึ่งดูแล้วก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาจมีสิ่งแปลกปลอม เปรียบเสมือน หยดสี ที่ใส่ลงไปในน้ำ ทำให้ชีวิตต้องรู้สึกเป็นทุกข์ ผิดหวัง และสิ่งเหล่านี้ก็คอยแทรกซึมไปทั่วชีวิตเราอย่างช้าๆ จนกระทั่งน้ำใสๆ ในแก้วเปลี่ยนเป็นสีอื่นอย่างชัดเจน นั่นแสดงว่าชีวิตเราตกอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์ตลอดไป

แต่หากเรามีความหวัง เราก็จะหยุดการหยดของสีลงไปในน้ำได้ เท่ากับว่าเราไม่ได้เพิ่มความทุกข์เข้ามาในตัวเราอีก แต่ความทุกข์ยังไม่หายไปจากตัวเรา หากแต่เราต้องเริ่มต้นเติมสิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เหมือนกับที่เราเพิ่งเริ่มต้น ใส่สิ่งต่างๆ ให้กับชีวิตเรา โดยต้องอาศัยระยะเวลา ไม่สามารถจะทำให้ได้ผลในวันเดียว แต่เราก็ยังมีความหวังและใส่สิ่งดีๆ ไปตลอดจนเต็มและล้นออกมาจากตัวเรา สิ่งที่ล้นออกมามันคือความทุกข์ในใจ  และแล้วสีน้ำนั้นก็ริ่มจางลงเรื่อย จนกลายเป็นน้ำใสในแก้วใบเดิม ทีเปี่ยมไปด้วยความสุข นั่นเอง

เรื่องราวที่ผมเขียนเล่าบรรยายเหล่านี้ บางครั้งผมก็นำไปสอนแนะแนวนักเรียน ในเรื่องของการมีความหวัง เพราะความหวังจะทำให้เรามีพลังในการแก้ไขปัญหาต่างๆ  ซึ่งก็แล้วแต่ใครจะนำไปคิดประยุกต์อย่างไรก็ถูกต้องหมด เพียงเพื่อให้มีความหวังเพื่อคลายความทุกข์

แสดงความคิดผ่าน Facebook