Happiness

เรื่องราวของ “ความสุข” คำๆ นี้ใครๆ ก็ต้องการ อย่างที่เคยกล่าวไว้นานแล้วว่า “สิ่งที่ทุกคนต้องการที่สุดในชีวิต คือ ความสุข แต่ไม่มีใครสามารถครอบครองได้”

ผมเชื่อว่า “ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน” (โดยปกติคนที่มั่นใจเค้าจะไม่ใช้คำว่า เชื่อว่า นะครับ) แต่นั้นก็เป็นเพียงคำแนะนำ สำหรับผมแล้ว คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น

หากพูดถึงความสุข ก็ต้องควบคู่กับความทุกข์ ครับ เพราะเป็นของคู่กัน (ความสุขจะเกิดขึ้นหลังจากผ่านความทุกข์มาแล้ว เป็นส่วนใหญ่) เหมือนฟ้าหลังฝน แต่ก็อาจจะมีความสุขโดยไม่ผ่านความทุกข์ ได้เช่นกัน นั่นเกิดจากการฝึกทำจิตใจ ให้เป็นสุขนั่นเอง

จากการวิจัยกว่า 75 ปี ของ Harvard Study of Adult Development ที่เมื่ออ่านจบแล้ว ก็จะหาคำตอบให้กับตัวเองได้เลยล่ะว่าจริงๆ แล้ว ‘ความสุขคืออะไร’ โดย โรเบิร์ต วาลดิงเจอร์ ในหัวข้อ “ชีวิตที่ดี มีได้จากอะไร? บทเรียนจากการวิจัยความสุขของมนุษย์ที่ยาวนานที่สุด”

ซึ่งเว็บไซต์ TED ทำได้ดีมากๆ ครับ มีภาษาแปลบรรยายได้หลายภาษา เป็นการฝึกฟังภาษาอังกฤษไปในตัว และสามารถคลิกแปลภาษาได้ทันที แถมยังดาวน์โหลดได้อีกด้วย อันนี้ขอยกนิ้วให้ว่า ทำเพื่อการศึกษาจริงๆ นี่คือการพัฒนาคนโดยไม่ปิดกั้น

ระบบแปลภาษาทำได้ดีมาก บอกเป็นเวลาของวิดีโอ และก็แปลตามช่วงเวลา ดูตัวอย่างได้จากลิงก์ด้านล่างครับ

ตัวอย่างคำแปล

0:11 อะไรทำให้เราแข็งแรงและมีความสุข ในการใช้ชีวิต หากตอนนี้จะต้องลงทุน สร้างตัวเองที่ดีที่สุดในอนาคต คุณจะใช้เวลาและพลังไปกับสิ่งใด? เมื่อเร็วๆ นี้ มีการสำรวจคนยุค Millennials ถามพวกเขาว่าเป้าหมายสูงสุด ในชีวิตของพวกเขาคืออะไร และมากกว่า 80% ตอบว่า เป้าหมายสูงสุดคือความร่ำรวย และอีก 50% ของคนกลุ่มเดียวกันนี้ บอกว่าเป้าหมายในชีวิตอีกอย่างหนึ่ง คือการมีชื่อเสียงโด่งดัง

การวิจัยนี้คือการติดตามศึกษาชีวิตของผู้ชายวัยรุ่น จำนวน 724 คน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มแรก : เป็นนักศึกษาชายชั้นปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดจำนวน 268 คน ที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับการศึกษา จากสถาบันที่มีชื่อเสียง

กลุ่มที่สอง :ป็นชายวัยรุ่นอายุ 12-16 ปี ที่อยู่ในตัวเมืองบอสตัน จำนวน 456 คน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เติบโตมาด้วยความลำบากและยากจน

โดยในทุกๆ 2 ปี ทีมวิจัยจะทำการเก็บข้อมูลจากแบบสอบถามของทั้ง 724 คน เกี่ยวกับความพอใจในชีวิต ของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตคู่ หน้าที่การงาน หรือความพอใจทางสังคม และทีมวิจัยยังสัมภาษณ์ลูกๆ และภรรยาของพวกเขาด้วยในบางครั้ง และในทุกๆ 5 ปี จะมีการตรวจสุขภาพ ตรวจเลือด ปัสสาวะ X-ray รวมถึงการสแกนสมอง

โดยระหว่างที่ทีมวิจัยเฝ้าติดตามพวกเขานั้น ก็ได้เห็นการเติบโต ได้เห็นพวกเขาประกอบอาชีพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คนงานในโรงงาน ทนายความ ช่างปูน หมอ บางคนติดเหล้า บางคนมีอาการทางประสาท และมีหนึ่งคนที่เป็นประธานาธิบดี และมีจำนวนไม่น้อยที่สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนสามารถเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคมได้ ส่วนอีกจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เลือกเดินทางผิด

โดยปกติงานวิจัยหนึ่งชิ้นจะไม่ค่อยใช้เวลานานมากเท่ากับครั้งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่มักถูกยกเลิกไปก่อน ภายใน 10-20 ปี เนื่องจากผู้ถูกวิจัยไม่ยอมให้วิจัยต่อ หรืองานวิจัยโดนตัดงบ หรือเสียชีวิต โดยในตลอดเวลา 75 ปี ของงานวิจัยชิ้นนี้ เหลือผู้รอดชีวิตเพียง 60 คน จากทั้งหมด 724 คน โดยทั้งหมดมีอายุมากกว่า 90 ปี ทั้งหมด

สุดยอดเลยครับ ทำได้ถึงขนาดนี้ เป็นงานวิจัยที่มีคุณค่าต่อมนุษย์บนโลกนี้อย่างแท้จริง เพราะหากพูดบอกกันธรรมดา คงไม่มีใครเชื่อ ต้องอ้างอิงงานวิจัย ซะทุกครั้ง (จึงจะเชื่อ และกว่าจะเชื่อกัน ก็ตายกันไปหมดแล้ว อิอิ) 

งานวิจัยความสุขนี้ สรุปได้ว่า “ชีวิตที่ดีเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ที่ดี”

 ‘Good relationships keep us happier and healthier.’

สอดคล้องกับที่ Mark Twain (นักเขียน นักบรรยาย และนักเขียนเรื่องขบขันชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง) เคยกล่าวไว้ว่า

Mark Twain

“ชีวิตสั้นนัก จนไม่มีเวลา สำหรับการทะเลาะ การขอโทษ การอิจฉาริษยา และการต่อว่า มีเพียงเวลาเพื่อรัก และจะว่าไปแล้ว ก็แสนสั้นเช่นกัน”

หรือพูดง่ายๆ คือ ชีวิตมันช่างสั้นเหลือเกิน เกินกว่าที่จะมาโกรธ ริษยา หรือทะเลาะกัน ควรจะมีเวลารักกันเท่านั้น เพราะแค่นี้ก็แทบจะมีเวลาไม่พออยู่แล้ว’ (ครับพี่น้อง)

 

แสดงความคิดผ่าน Facebook