ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ศธ.ประชุมร่วมสำนักพิมพ์เอกชนเตรียมเนื้อหาบรรจุในแท็บเล็ต พร้อมสรุปตัวเลข ร.ร.ของสพฐ.รับแท็บเล็ต ทั้งหมด 24,098 โรง แต่มีไฟเบอร์ออฟติกผ่านหน้าร.ร.แค่ 789 โรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 55 ที่กระทรวงศึกษาธิการ น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสำนักพิมพ์เอกชน จำนวน 14 สำนักพิมพ์ อาทิ บริษัท MCGRAWHILL , สำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช จำกัด , บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น , บริษัท อักษรเจริญทัศน์ (อจท.) จำกัด เป็นต้น เพื่อหารือเกี่ยวกับเนื้อหาสาระการเรียนรู้ที่จะบรรจุในคอมพิวเตอร์แบบพกพา (แท็บเล็ต) ว่า ได้เชิญสำนักพิมพ์มาหารือเพื่อสอบถามถึงความพร้อมในการเตรียมเนื้อหาที่จะ บรรจุลงในแท็บเล็ต เพราะขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เตรียมพร้อมเนื้อหาหลักสูตรของชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในรูปแบบ Learning Object และ e-book เพื่อบรรจุลงในแท็บเล็ต ใช้พื้นที่ความจำไปแล้ว 4 กิ๊กกะไบต์ จาก 8 กิ๊กกะไบต์
อย่างไรก็ตาม ระยะยาวนโยบาย ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ต้องการให้ทุกชั้นเรียนได้ใช้แท็บเล็ต เท่ากับว่าในปีการศึกษา 2555 ระดับชั้นอื่น ๆ ตั้งแต่ ป.2-6 และม.1-6 ต้องมีแท็บเล็ตใช้ด้วย โดยเฉพาะระดับมัธยมนั้นเนื้อหาสาระการเรียนมีมากกว่าระดับประถมคาดว่าต้อง ใช้หน่วยความจำประมาณ 16 กิ๊กกะไบต์ ซึ่ง สำนักพิมพ์ส่วนใหญ่ระบุว่า เนื้อหาสาระที่จะบรรจุแท็บเล็ตระดับประถมศึกษานั้นได้เตรียมพร้อมเรียบร้อย แล้ว ส่วนระดับมัธยมนั้นจะเสร็จเรียบร้อยในเดือนมีนาคมแน่นอน
ทั้งนี้ ได้สอบถามความเห็นเพิ่มเติมเรื่องของลิขสิทธิ์และวิธีการจัดซื้อว่าควร ดำเนินการเช่นไร ซึ่งได้ ศธ.เสนอ 4 แนวทาง คือ .
1. ดำเนินการในรูปแบบทีโออาร์ยื่นซองประกวดราคา
2. ให้ดาวน์โหลดจากเซิร์ฟเวอร์ของสำนักพิมพ์
3. ศธ.ทำเซิร์ฟเวอร์กลางและสำนักพิมพ์นำหลักสูตรมาใส่ไว้เพื่อให้โรงเรียนดาวน์โหลด และ
4. สำนักพิมพ์จัดเก็บข้อมูลลงใน SD Card
โดยจากข้อเสนอเหล่านี้ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางที่ 2 และ 3 พร้อมกันนี้ได้เสนอให้ ศธ.มีการเตรียมการเรื่องระบบบริหารจัดการที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตามเพื่อให้ได้ความเห็นที่ตรงกันมากที่สุดตนได้สั่งการให้มีการส่ง หนังสือไปยังสำนักพิมพ์ต่าง ๆ เพื่อขอให้เสนอแนวทางหรือแผนที่เหมาะสมกลับมายัง ศธ.ภายในวันศุกร์นี้ จากนั้นจะนำมาสรุปเพื่อนำเสนอ รมว.ศธ. ต่อไป
“สำนักพิมพ์ส่วนใหญ่ตื่นตัวและเตรียมจัดทำหลักสูตรที่พร้อมจะบรรจุในแท็บ เล็ตแล้ว ซึ่งหลายแห่งก็รับประกันคุณภาพหลักสูตรที่จะนำมาใช้ รวมทั้งเสนอตัวที่จะช่วยอบรมเตรียมพร้อมให้กับครู ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ด้วยซึ่งจุดนี้ก็สอดคล้องกับแนวทางของ ศธ.ที่จะดำเนินการ นอกจากนี้ ในวันที่ 21-22 กุมภาพันธ์ ที่ ศธ.จะจัดแถลงยุทธศาสตร์ของกระทรวงที่เมืองทองธานี ซึ่งประเด็นสำคัญจะเกี่ยวข้องกับแท็บเล็ตโดยจะเชิญนายกรัฐมนตรีมาเป็นประธาน เปิดงาน และในวันดังกล่าวจะเชิญสำนักพิมพ์มาจัดแสดงด้วย”
ปลัด ศธ.กล่าวถึงความคืบหน้าในการสำรวจความพร้อมของสถานศึกษาที่จะได้รับจัดสรร แท็บเล็ตในเดือน พฤษภาคม 2555 นี้ ว่า ขณะนี้ได้จัดแบ่งสถานศึกษาออกเป็น 3 กลุ่มตามความพร้อมซึ่งได้รับรายงานข้อมูลเฉพาะของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า มีโรงเรียนทั้งหมด 24,098 โรง นักเรียนป.1 จำนวน 507,148 คน
แบ่งเป็น กลุ่มที่ 1. กลุ่มที่มีการติดตั้งระบบไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic) เรียบร้อยจำนวน 789 โรง แต่ ศธ.อาจจะต้องประสานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อติดตั้งกล่องรับสัญญาณเพิ่มเติมสำหรับรองรับการใช้งานของนักเรียนที่ อยู่ในพื้นที่ระยะไกล
2. กลุ่มที่มีการใช้ระบบเอดีเอสแอล (ADSL) จำนวน 6,457 โรง ซึ่งส่วนใหญ่ระบบนี้จะเป็นการเชื่อมต่อทางสายโทรศัพท์และนิยมใช้ในห้อง คอมพิวเตอร์ ซึ่ง ศธ.ต้องประสานไอซีทีในการติดตั้งสายเพิ่มเติม และ
3. กลุ่มที่มีการใช้ระบบสัญญาณจานเดียวเทียม หรือ แซทเทิลไลท์ จำนวน 16,652 โรง ซึ่งกลุ่มสนี้ค่อนข้างมีปัญหาในการเชื่อมต่อสัญญาณ อย่างไรก็ตาม เราต้องการข้อมูลของสถานศึกษาทุกสังกัด เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เพื่อจะนำมาจัดวางแผนเพื่อขยายเครือข่ายได้อย่างครอบคลุม
ที่มา http://www.komchadluek.net
Read More »