ภาพจาก collegerank.net

เป็นข่าวอีกแง่มุมหนึ่งของผู้จบการศึกษาระดับสูง ในระดับปริญญาเอก (Doctoral Degree) ที่หลายคนคิดว่าเมื่อเรียนจบแล้วจะมีโอกาสสูงในการเข้าทำงาน และโอกาสทางสังคม แต่ก็มีอีกด้านหนึ่งที่ตรงกันข้าม คือ ไม่มีองค์กรหรือบริษัทไหนเลยรับนักศึกษาที่จบ ปริญญาเอก นี่คือเรื่องจริงของหนุ่มชาวมาเลเซีย ผู้ถือปริญญาเอก มหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติมาเลเซีย ได้เข้ามาที่เว็บไซต์ iiumc.com เพื่อเขียนเรื่องราวของเขาให้สังคมได้รับรู้ ในหัวข้อ “อาการซึมเศร้าหลังจบปริญญาเอก”

เขาเรียนจบปริญญาเอกในปี 2560  คณะวิทยาศาสตร์ สาขาชีววิทยา มาตั้งแต่ปี 2017 และที่ผ่านมากว่า 2 ปี เขาได้ใช้เวลาไปกับการหางาน

และนั่นก็ทำให้เขาได้เผชิญกับความเป็นจริงอันโหดร้าย เมื่อไม่มีบริษัทไหนรับเขาเข้าทำงานเลยแม้แต่ที่เดียว โดยที่บริษัทเหล่านั้นให้เหตุผลกับเขาว่า

“คุณมีคุณสมบัติที่มากเกินความจำเป็น

เข้าสารภาพว่า เขาพยายามถอดปริญญาเอกและปริญญาโทออกจากประวัติย่อ แต่ก็ไม่ได้ผลเช่นกัน

คนสัมภาษณ์ถามว่าผมเอาเวลาไปทำอะไรตั้ง 8 ปี โดยไม่มีประสบการณ์การทำงาน? สุดท้ายผมก็ต้องเล่าอยู่ดีว่า “เวลานั้นกำลังเรียนปริญญาโทและปริญญาเอก”

บริษัทจะปฏิเสธฉันด้วยเหตุผลเดียวกัน ฉันเป็นผู้ชายอายุเกือบ 32 ปีไม่มีงานที่มั่นคงหรือรายได้ที่มั่นคง 

จากสิ่งที่เกิดขึ้นมาตลอดกว่า 2 ปี ทำให้ทุกวันนี้ชายหนุ่มจึงต้องหันไปพึ่งพาการขับ Grab Food ประทังชีวิตไปในแต่ละวัน ซึ่งทำให้การเงินของเขาไม่ได้ไหลลื่นและมั่นคงเท่าที่ควร

“ตอนนี้ผมอายุ 32 ปี ผมควรต้องเริ่มมีเสถียรภาพทางการเงินบ้างแล้ว แต่ไม่เลย ผมทำได้แค่เลี้ยงปากท้องตัวเองไปวันๆ เท่านั้นเอง จะช่วยค่าใช้จ่ายพ่อแม่หรือทุนการศึกษาของน้องๆ อีก 3 คน ผมก็ทำไม่ได้”

พ่อครับ แม่ครับ ผมขอโทษ” เขากล่าว

การที่ตนเองไม่มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง ทำให้เขามักจะนึกเสียใจและเสียดายช่วงเวลากว่า 8 ปีที่ใช้ไปกับการเรียนปริญญาโทและเอก

มันไม่ใช่แค่ว่าเขาหางานไม่ได้ แต่ชายหนุ่มยังรู้สึกว่าช่วงเวลา 8 ปีกลับทำให้เขาต้องสูญเสียอะไรหลายๆ อย่าง ถ้าเขารู้ว่าจะต้องออกมาขับ Grab แบบนี้ สู้ไม่เรียนตั้งแต่แรกแล้วเริ่มทำตั้งแต่ตอนนั้นยังจะดีเสียกว่า

“ ลองเปรียบเทียบหนี้ทั้งหมดที่ฉันมีจากการศึกษากับสถานการณ์ปัจจุบันของฉันตอนนี้หรือไม่”

เขาเชื่อว่าการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษาควรได้รับการติดตามโดยผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานและเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชานั้น ๆ เท่านั้นและสนับสนุนให้อาจารย์และนักการศึกษาชักชวนนักเรียนให้ทำงานและได้รับประสบการณ์ชีวิตจริงก่อนที่จะพิจารณาต่อไป อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นของอาจารย์และผู้ถือปริญญาเอก

คำแนะนำของเขาสำหรับคนรุ่นใหม่?

“ โปรดวางแผนชีวิตของคุณอย่างชาญฉลาด ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนไป ความรู้ไม่เพียง แต่พบได้เฉพาะในมหาวิทยาลัยเท่านั้น ความรู้สามารถพบได้ในโรงงานสำนักงานและแม้แต่บนท้องถนน จำไว้ว่าเมื่อคุณทำงานผู้คนรอบตัวคุณจะได้รับประโยชน์จากการทำงานหนักของคุณ ความพยายามหลังจบการศึกษาของคุณจะถูกเก็บไว้ในหนังสือหนังหนา ๆ ในห้องสมุดที่เต็มไปด้วยฝุ่น ใครจะรู้ถ้าใครจะอ่านด้วยซ้ำ” เขากล่าวเสริม

เขาโทษการมองโลกในแง่ร้ายและการปฏิเสธของเขาต่อภาวะซึมเศร้าหลังปริญญาเอก คำพูดสุดท้ายของเขา?

“ ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันจะอยู่รอดและจะเร่งรีบเพื่อคนที่ฉันรัก”

เขาลงชื่อไว้ท้ายบทความว่า ‘คนขับ Grab Food วุฒิ ป.เอก’ (Grab Food PhD Holder)

ผมขอเป็นกำลังใจให้ครับ ที่สำคัญให้มีความสุขกับงานที่ทำอยู่ปัจจุบันนี้ แล้วอนาคตที่คาดหวังจะก่อตัวขึ้นโดยเร็ววัน

ที่มา https://iiumc.com/post-phd-depression

แสดงความคิดผ่าน Facebook