ภาพจาก www.freepik.com

อะไรๆ ก็ Social คำนี้บางครั้งก็ฟังดูเหมือนจะใช้กันพร่ำเพรื่อหรือเป็นกระแสนิยม หมายความว่า ใช้คำนี้ขึ้นก่อนแล้วจะดูทันสมัย ซึ่งจริงๆแล้วบางครั้งก็ไม่จำเป็น ขอให้เป็นคำที่มีความหมายตรงตัวฟังแล้วสื่อสารเข้าใจง่ายจะดูดีกว่า ฟังครั้งแรกผมก็ยังรู้สึกแปลกๆ ว่าทำไมต้องใช้คำว่า Social Distancing ในการสื่อความหมายว่า ให้อยู่ห่างกันเวลาพูดคุยกันหรือสนทนากัน เพราะคำว่า Social มันดูกว้างมาก และผู้คนก็พูดกันติดปากโดยไม่จำเป็นตลอดว่า Social Distancing แต่ในที่สุด เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 องค์การอนามัยโลก ก็ได้เปลี่ยนคำนี้

โดยใช้คำใหม่เพื่อเป็นคำศัพท์ทางเป็นทางการ ในการพูดถึงโรคระบาดโควิด 19 คือ Physical Distancing วัตถุประสงค์ก็เพื่อ ต้องการให้ผู้คนสามารถยังคงเชื่อมต่อกันทางสังคมที่ห่างไกลได้ เพียงแค่ให้เว้นระยะห่างทางกายภาพไม่ใช่เว้นระหว่างทางสังคม

ซึ่งข่าวประชาสัมพันธ์ของ DLTV ก็ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกัน นั่นคือ


Physical Distancing “ร่วมมือร่วมใจ รักษาระยะห่างทางกายภาพระหว่างกัน”
แนวทางสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาด Covid-19

-การรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย จากการแพร่กระจายเชื้อผ่านฝอยละออง เช่น ไอ หรือจาม อย่างน้อยสองเมตร ลดการติดต่อเชื้อระหว่างกัน

Social Distancing เว้นระยะห่างทางสังคม

-อยู่บ้านให้มากขึ้น ทำงานอยู่กับบ้าน อัพเดทความเป็นไปของกันและกันผ่านทางออนไลน์ ปลอดภัยกว่าที่จะพบปะพูดคุยกันโดยตรง

-ลดการออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงหรือจำกัดคนที่จะมาเยี่ยมบ้าน สถานที่ ที่มีคนเยอะๆ การใช้ขนส่งสาธารณะหรือการอยู่ห่างๆจากคนอื่นในที่สาธารณะ เว้นจากการเข้าร่วมกิจกรรมกับผู้อื่น

-ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารออนไลน์ ให้เป็นประโยชน์ เพราะปัจจุบัน การสื่อสารด้วยเครื่องมือต่างๆก้าวหน้าไปอย่างมากจนเราไม่จำเป็นต้องอยู่ใกล้ชิดกันถึงขนาดต้องอยู่ในห้องหรือในที่เดียวกันกับคนอื่นๆ

อ้างอิง
1.https://qz.com/1830347/social-distancing-isnt-the-right-language-for-what-covid-19-asks-of-us/
2.https://www.dltv.ac.th/content/content-detail/10509/1001

แสดงความคิดผ่าน Facebook