นักวิชาการชี้แท็บเล็ตแทนหนังสือไม่ได้
สนทนาการศึกษา สิงหาคม 15th, 2011วรวัจน์’ มั่นใจใช้งบฯ ปี 55 ซื้อแจก ‘ชินวรณ์’ลั่นจับตาธุรกิจการศึกษา
นายไพฑูรย์ สินลารัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) กล่าวถึงกรณีที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) จะเปลี่ยนแปลงงบประมาณในโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ในส่วนของหนังสือเรียน จัดซื้อแท็บเล็ต หรือ คอมพิวเตอร์พกพาที่มีหน้าจอแบบสัมผัส แจกแทน ว่า การจะยกเลิกซื้อหนังสือเรียน แล้วซื้อแท็บเล็ตแทน นั้น มันทดแทนกันไม่ได้ เพราะหนังสือยังเป็นสิ่งที่สำคัญต่อการเรียนของเด็กอยู่ โดยเฉพาะในวิชาหลัก ได้แก่ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษา และภาษาอังกฤษ ซึ่งทั่วโลกที่ให้เด็กใช้แท็บเล็ตก็ยังคงมีหนังสือเรียนให้เด็กใช้ควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้หากจะต้องยกเลิกการซื้อหนังสือเรียนแจกจริง ๆ ก็ขอให้เป็นหนังสือเรียนที่เป็นวิชาเลือก
นายวรวัจน์ กล่าวว่า นโยบายจัดซื้อแท็บเล็ตให้นักเรียน ตามโครงการส่งเสริมให้เด็กมีคอมพิวเตอร์ใช้ หรือ วัน แท็บเล็ต พีซี เพอร์ ไชลด์ นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาในหลักการว่าจะเปลี่ยนงบฯหนังสือหรือตำราเรียนได้ในสัดส่วนเท่าไร และเพียงพอที่จะจัดสรรงบประมาณให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในกี่ปี ซึ่งจะต้องไปจัดกลุ่มงบประมาณก่อน แต่จะพยายามทำให้ดีและเป็นประโยชน์มากที่สุด ทั้งนี้การดำเนินการโครงการดังกล่าวจะต้องดูความพร้อมของหลักสูตร เนื้อหา และความพร้อมของผู้เรียน ครู และสถานศึกษาด้วย เมื่อมีความพร้อมจะดำเนินการให้ทันที โดยจะไม่แยกว่าจะอยู่ในระดับชั้นใดชั้นหนึ่ง แต่จะดูความพร้อมเป็นหลัก และเรื่องนี้ต้องตัดสินใจร่วมกับผู้บริหาร ศธ.ทุกแห่ง ไม่ใช่การตัดสินใจของตนเพียงคนเดียว
“ขณะนี้ ศธ.มีข้อจำกัดเรื่องงบฯ เนื่องจากต้องรองบฯปี 2555 ผ่านสภาผู้แทนราษฎรประมาณเดือน ธ.ค.2554 ดังนั้นน่าจะได้รับงบฯในเดือน ม.ค. 2555 จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และคาดว่าปลายปีการศึกษา 2554 หรือ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 น่าจะจัดซื้อแท็บเล็ตแจกนักเรียนได้” รมว.ศธ.กล่าว
ด้าน นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ อดีต รมว.ศธ. กล่าวว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่หาเสียงไว้ว่าจะจัดหาแท็บเล็ตให้แก่นักเรียน คงไม่ได้ศึกษาผลกระทบอะไร เพราะเมื่อนำนโยบายนี้มาทำจริง ๆ แล้ว การจะนำงบฯจัดซื้อหนังสือเรียน 24,000 ล้านบาท มาซื้อแท็บเล็ตแทน คงไม่ใช่ เพราะจริง ๆ แล้วงบฯ จัดซื้อหนังสือเรียนฟรีทุกระดับชั้นมีประมาณ 6,000 ล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้ในสมัยตนได้จัดหาคอมพิวเตอร์ให้นักเรียนในสัดส่วน 1 เครื่องต่อนักเรียน 3 คน มีการกำหนดเนื้อหาให้เด็กได้เรียนในคอมพิวเตอร์ ดังนั้น รมว.ศธ.คนใหม่ อาจจะมาสานต่อในส่วนนี้แล้วขยายผลการแจกแท็บเล็ตในชั้นเรียนที่เป็นไปได้ แต่หากจะแจกโดยไม่ได้ดูความพร้อมก็อาจมีปัญหาได้ รวมทั้งต้องดูว่าแท็บเล็ตที่จะจัดซื้อแจกมีคุณภาพหรือไม่ และการผลักดันเรื่องนี้จะเป็นการทำในเรื่องของธุรกิจการศึกษาหรือไม่โดยสิ่งเหล่านี้จะต้องมีการตรวจสอบกันต่อไป.