รายงานผลวิจัยล่าสุด (พฤษภาคม 2554) เกี่ยวกับโซเชียลมีเดียโดย Nielsen ระบุว่า Facebook ครองใจชาวมะกันสูงสุด โดย 4 ใน 5 ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประจำจะเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย (Facebook) และบล็อก ในจำนวนนี้เกือบ 40% จะเข้าใช้บริการของโซเชียลมีเดียด้วยสมาร์ทโฟน

เครือข่ายสังคมออนไลน์ และบล็อกครองส่วนแบ่งเวลาในการออนไลน์ของชาวมะกันสูงเกือบหนึ่งในสี่ (22.5%) ของเวลาทั้งหมด มากกว่าสองเท่าของเวลาทีใช้ในการเล่นวิดีโอเกมส์ (9.8%) นอกจากนี้ เครือข่ายสังคมออนไลน์ และบล็อกที่ชาวมะกันใช้เวลาด้วยมากที่สุดคือ Facebook โดยเวลาออนไลน์ของผู้ใช้ทั้งหมดกับเว็บไซต์แห่งนี้อยู่ที่ 5.345 หมื่นล้านนาทีจะขลุกอยู่ในบริการต่างๆ อย่างเช่น นิวส์ฟีด อัพเดทสถานะ โพสต์ภาพถ่าย และวิดีโอ ตลอดจนคอมเมนต์ การใช้เวลากับ Facebook ทิ้งห่างเว็บไซต์อื่นๆ แบบไม่เห็นฝุ่นกันเลยทีเดียว โดยอันดับสองอย่าง Blogger (ของ Google) ยังไม่ถึงหนึ่งพันล้านนาที จากรายงานยังระบุว่า ในเดือนพฤษภาคมมีผู้เข้าเยี่ยมชม และใช้บริการ Facebook มากกว่า 140 ล้านราย หรือประมาณ 3 เท่าของผู้เข้าชม Blogger คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดผู้ใช้เน็ตใน US ประมาณ 70%

จากรายงานยังเปิดเผยอีกด้วยว่า ผู้หญิงอายุ 18 – 34 เป็นกลุ่มผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กที่แอคทีฟมากที่สุด และส่วนใหญ่เป็นผู้ สำเร็จการศึกษาในระดับวิทยาลัยจาก New England ซึ่งรวมถึงนักศึกษา Asian American ที่มีรายได้ต่ำกว่า 50,000 เหรียญฯต่อปี ในขณะเดียวกันผู้บริโภคกลุ่มใหญ่จะยังคงเข้าถึงโซเชียลมีเดียด้วย คอมพิวเตอร์ของตนเอง (97%) และ 37% จะเข้าถึงโดยสมาร์ทโฟน

นอก จากนี้ ในจำนวนผู้ที่เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน และดาวน์โหลดแอพฯ โซเชียลเน็ตเวิร์กยังเป็นแอพฯยอดนิยมอันดับสามของชาวมะกันอีกด้วย โดยเป็นรองเกมส์ และรายงานสภาพภูมิอากาศ

ใน ขณะที่ Facebook จะปรากฎอยู่ในแทบทุกส่วนของรายงานฉบับนี้ เว็บไซต์อื่นๆ ที่ให้บริการในลักษณะที่เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กก็ติดตสอยห้อยตามกันมาติดๆ ไม่ว่าจะเป็น Tumbler โดยผู้ใช้เน็ตชาวมะกันที่มีอายุ 18-34 ปีจะใช้บริการเว็บไซต์แห่งนี้มากถึง 75% ซึ่ง Tumblr เป็นเว็บไซต์ที่ผสมระหว่างบล็อกกับทวิตเตอร์ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถโพสต์ และคอมเมนต์ทุกอย่างตั้งแต่ภาพไปจนถึงวิดีโอ ลิงค์ ตลอดจนข้อความอ้างอิงจากที่ต่างๆ เป็นบริการที่เติบโตเร็วมากแค่ 2-3 ปีก็สามารถติดอันดับ 8 ของเว็บไซต์ในหมวดโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้ว

สุด ท้ายรายงานวิจัยังได้แสดงให้เห็นว่า โซเชียลเน็ตเวิร์กไม่ได้เป็นปรากฎการณ์แค่ในสหรัฐฯ แต่จากตัวอย่างสิบประเทศในโลก โซเชียลเน็ตเวิร์ก และบล็อกยังเป็นอันดับหนึ่งในหลายๆ ประเทศอีกด้วย ทั้งในเรื่องของเวลาส่วนใหญ่ที่ใช้งาน และการเข้าถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างน้อย 60% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงมาก

ข้อมูลจาก: Nielsen Report

http://www.arip.co.th

แสดงความคิดผ่าน Facebook